วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

รถไฟไทย รถไฟเยอรมัน รถไฟญี่ปุ่น


รถไฟไทย รถไฟเยอรมัน รถไฟญี่ปุ่น

คนเก่งออกไปทำรอบนอก, รถไฟเยอรมัน ,รถไฟญี่ปุ่น,รถไฟไทย,การเคลื่อนย้ายประชากร ในระยะเวลาสั้น,
ระบบขนส่งเมืองไทย ทำไมต้องรถยนต์ ทำไมต้องถนน,การรถไฟแห่งประเทศไทย 2499,คอรัปชั่นและการลงโทษ
แอร์พอร์ตลิงค์,รถไฟฟ้าใต้ดิน

ผมยังมีความเชื่อว่าประเทศไทยจะพัฒนาได้ด้วยการกระจายความรู้จากการกระจุกตามเมืองใหญ่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา ไปสู่หัวเมืองใกล้เคียงหรือเมืองบริวารเหล่านี้ ยังเชื่อว่ายิ่งเมืองใหญ่เท่าใดยิ่งมีคนเก่งๆ หัวกระทิกระจุกตัวอยู่เยอะ เพราะชีวิต แหล่งงาน แหล่งการศึกษา ครอบครัว ทำให้จำเป็นต้องอยู่ กรุงเทพปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีคนเก่งหัวกระทิอยู่เยอะ จะกี่เท่าก็ไม่รู้เมื่อเทียบกับหัวเมืองใหญ่เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา

คนถาม จะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้ออกไปทำงานตามหัวเมืองใหญ่ที่กล่าวมาให้ได้มากทีสุด จะกระจายความรู้เหล่านี้อย่างไร อะไรคือปัญหาหลัก อุดมการณ์นั้น ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้มี และมีความคิดจะพัฒนาประเทศแน่นอน แต่ต้องช่วยกันทุกระดับ ผู้บริหารประเทศต้องแก้ปัญหานี้ โดยปราศจากหรือลดการคอรัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด แต่ถ้ากำหนดโทษให้รุนแรง เชือดจริงๆ หรือ เอาดินกลบไปเลยมันก็น่าจะทำได้ เพราะคนพวกนี้ทำลายชีวิตของคนส่วนใหญ่และขัดขวางการพัฒนาประเทศ

ผมคิดว่าระบบขนส่งมวลชนระหว่างกรุงเทพกับหัวเมืองใหญ่สำคัญที่สุด ผมเคยเรียนและทำงานอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ กรุงเทพ พิษณุโลก สตุ๊ทการ์ท ผมเคยเดินทางไปเมืองใหญ่ของโลก เฉินตู หวูหั่น ของจีน สตุ๊ทการ์ท เบอร์ลิน แฟรงเฟิร์ต มึนเช่น โอซาก้า โตเกียว โกเบ นาโกย่าและเกียวโตที่ผมกำลังศึกษาป.เอกอยู่ที่ถือว่าเป็นเมืองบ้านนอกแล้วของญี่ปุ่น เมืองใหญ่เหล่ามีระบบขนส่งภายในเมืองที่ดี โครงข่ายเชื่อมภายในเมือง และระหว่างเมืองที่ดี และเป็นระบบโดยเฉพาะเยอรมัน กับ ญี่ปุ่น แต่จีนผมแค่ไปสั้นๆ ไม่รู้มากนัก โดยระบบขนส่งจะมีรูปแบบเดียวกันเลยคือ รถไฟฟ้าใต้ดิน (subway ,chikatetsu,U-Bahn) ให้คนในเมืองใช้ เพิ่มความสะดวกในเวลาเร่งรีบ ประหยัดเวลาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคนในเมือง ส่วนรถไฟระหว่างเมืองที่เยอรมันจะมี S-Bahn และญี่ปุ่นเป็น Densha จะใช้เดินทางในระยะทางไกลมาหน่อยกว่า subway แต่ก็ยังสามารถใช้ในการเดินทางข้ามจังหวัดได้ด้วย ซึ่งประหยัดและสะดวก ส่วนรถไฟรูปแบบที่สามคือ รถไฟด่วน หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ชินกันเซน และเยอรมันก็มี ICE ที่ใช้เวลาเดินทาง 400 กิโลเมตรประมาณสองชั่วโมง ถ้าจากกทม.ไปเชียงใหม่ก็ไม่น่าจะเกินสี่ชั่วโมง ไว้วันหน้าจะคุยรายละเอียดให้มากกว่านี้

 รถไฟหัวกระสุนของเยอรมัน ICE



รถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น Shinkansen

ประเทศไทยต้องสร้างและพัฒนารถไฟด่วนระหว่างหัวเมืองใหญ่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเคลื่อนย้ายแรงงานหัวกระทิในระยะเวลาอันสั้นสามสี่ชั่วโมง กระจายความรู้ให้เร็ว จากกทม.ไปเชียงใหม่ ไปขอนแก่น ไปสงขลา ให้เร็วที่สุดก่อน ผมได้คุยกะเพื่อนที่จบทางด้านระบบขนส่งที่จบจากโตเกียวมา เค้าบอกก็กำลังศึกษา โดยบริษัทญี่ปุ่นกำลังจะมาวางระบบให้ ผู้บริหารบ้านเมืองต้องเร่งให้เกิดด่วน บ้านเราช้าไปแล้วครับ เอาแต่ทะเลาะและคอรัปชั่นกันจนลืมว่าโลกก้าวไปไกลขนาดไหน ผมเชื่อว่าถ้ามีรถไฟประเภทนี้จะทำให้ประเทศเรากระโดดไปอีกขั้น เพราะความรู้ถูกกระจาย คนเก่งในหัวเมืองใหญ่อย่ากทม.ก็จะไปแวะทำงาน สอนหนังสือ ช่วยสอนที่พิษณุโลก คนเก่งจากเชียงใหม่ก็เดินทางไปติดต่อ ไปสอน ไปวิจัย สัมนา ที่กทม.ได้วัน ไปเช้าเย็นกลับได้ ไม่ต้องเสียเวลา สามถึงสี่วัน คือ ไปหนึ่งวัน ทำงานหนึ่งวัน กลับหนึ่งวัน คนเก่งจากขอนแก่นก็ไปวิจัย สัมนา สอนหนังสือที่สงขลา ส่วนคนสงขลาก็ไปกทม.หรือเชียงใหม่ได้ไม่ยาก เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรหัวกระทิ ขอให้ผลักเป็นวาระแห่งชาติไปเลย ครั้นจะเอาให้เครื่องบินก็ได้ แต่ยังไม่สะดวกเท่า เราไม่สามารถยกระดับและพัฒนาทุกพื้นที่ในประเทศไทยได้พร้อมๆกันในเวลาเดียว เพราะปัจจัยหลักคือ เงินทุน แต่ถ้ามีระบบเชื่อมต่อขนส่งที่ดี จังหวัดที่อยู่ใกล้หัวเมืองใหญ่จะพัฒนาตามมาในไม่ช้า

อาจแต่ต้องแก้ปัญหารับมือกับค่าภาษีที่เคยได้จากบริษัทรถยนต์ ที่เคยขายรถยนต์ได้ปีๆหนึ่งหลายหมื่นล้านแก่คนไทย พวกเราคนไทยต้องยอมเจ็บตัวกับการเปลี่ยนแปลง เข้าใจว่าแหล่งงานทางด้านการประกอบรถยนต์นี่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ให้กับคนไทย แต่ถ้าเราไม่สามารถจะพึ่งพาหรืออยู่ด้วยลมหายใจของผู้อื่นได้ตลอดไป ประเทศต้องก้าวต่อ แต่การเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปอย่าง smooth เท่าที่จะทำได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคณะผู้นำประเทศที่ดีที่มีการวางแผนการเปลี่ยนแปลง ถามผมจุดนี้ก็คงไม่รู้ แต่มันต้องมีทางไป ถ้าได้ศึกษาจริงๆ ในระยะยาวเราจะประหยัดเวลาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตเมืองมากที่สุด หากต้องการพัฒนาความเป็นเมืองให้ประเทศเรา การสร้างถนนก็จะลดลง บริษัทพวกก่อสร้างถนนหนทางก็ต้องมีปัญหาบ้าง  แต่ก็ต้องปรับตัว ขอย้ำเพียงตัวเดียวไม่ว่าจะสร้างจะทำอะไร คอรัปชั่นต้องลดหรือกำจัดไปให้ได้ ด้วยการเชือด ถ้าระบบมันเน่าคือมันโกงกันตั้งแต่หัวยันหาง แล้วจะทำยังไง จะจับโยนทะเลหมดก็ทำไม่ได้ ก็กำจัดที่หัว เชือดคนดังก่อน พวกตัวเล็กก็จะไม่กล้าและเลิกไปเอง

ขอเถอะครับ สร้างมันเถอะ ผมดีใจมากๆที่แอร์พอร์ตลิงค์สร้างเสร็จ ผมได้เดินทางผ่านพื้นที่การรถไฟแถวมักกะสัน มีอาคารหลังหนึ่งเขียนไว้ตรงหน้าจั่วว่า สร้างเมื่อ 2499 ผมมองลงไปจากแอร์พอร์ตลิงค์ขณะที่รถไฟเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่นั้น มีซากหัวจักรรถไฟเก่าๆ อาคารเก่าๆหลายหลัง มีซากอะไรรกรุงรัง เหมือนพื้นที่รกร้าง ถึงเวลาต้องยอมรับแล้วครับว่าต้องเปลี่ยน ผู้บริหารประเทศก็ต้องกล้าเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ขอคนดี ทุ่มเทให้ชาติ เวลาผ่านไปแล้วไม่มีอะไรพัฒนา เราจะยอมกันอย่างนี้ไปอีกสิบยี่สิบปีหรือ ห้าปีผมก็ว่ามากพอแล้ว เปลี่ยนเอกชนจัดการไปเลย เหมือนเยอรมัน โดยรัฐถือหุ้นบางส่วน ไม่รู้นะอาจเพ้อเจ้อไป แต่คนตัวเล็กๆอย่างผมต้องการให้เกิดการพัฒนาหลายๆส่วน ซึ่งผมมั่นใจความรู้ที่เรามีพร้อมแล้วระดับหนึ่ง อาจสู้ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไม่ได้เพราะงานวิจัยเรายังน้อยกว่าเค้าหลายร้อย หลายพันเท่า เราเริ่มช้ากว่าเค้า แต่ถ้ากระจายความรู้ ประเทศก็จะเดินต่อไป เกิดการเคลื่อนย้ายประชากร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น