วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

นำเสนอผลงานในรอบปีที่ผ่านมาและแผนงานวิจัยในปีนี้


นำเสนอผลงานในรอบปีที่ผ่านมาและแผนงานวิจัยในปีนี้
ระบบแลปของญี่ปุ่นนี้เข้มแข็งมากๆ มีอาจารย์โปรเฟสเซอร์ใหญ่เป็นผู้ดูแลแลปเหมือนกับผู้จัดการบริษัทเล็ก แล้วรองศาสตราจารย์กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ก็คอยช่วยงานทุกอย่างที่โปรเฟสเซอร์เป็นคนสั่ง แล้วแลปผมจะมีการสัมนาทุกวันศุกร์โดยจะมีคณาจารย์อีกหนึ่งแลปพานักศึกษาของเค้ามาร่วมสัมนาด้วย

วันนี้เป็นอาทิตย์ที่สองของการเปิดเทอม ซึ่งเป็นปรกติที่จะต้องมีการแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งนำเสนอแผนงานวิจัยว่าจะทำอะไร ในปีนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นโปรเฟสเซอร์ รศ. ผศ. นักศึกษาทุกระดับ ตรี โท เอก หลังปริญญาเอก จะต้องสรุปว่าทำอะไรไปบ้าง ตีพิมพ์กี่เปเปอร์ ญี่ปุ่นเค้าคลั่งเรื่องเปเปอร์มากเพราะมันคือตัวชี้วัดความสำเร็จของการศึกษาเค้า อีกทั้งเป็นตัววัดสำคัญว่ารัฐบาลจะให้เงินทุนในการพัฒนาการศึกษาอีกด้วยถ้าหากมีผลงาน แล้วต้องบอกด้วยว่าไปพรีเซนต์กี่ที่ อบรมกี่แห่ง พร้อมทั้งบอกแผนของปีนี้ว่าได้ทุนกี่แห่ง จะทำวิจัยเรื่องอะไร ส่วนเด็กก็จะต้องบอกว่าปีที่ผ่านมาศึกษาอะไรสำเร็จบ้าง ตีพิมพ์ไปกี่เรื่อง แล้วปีนี้จะทำวิจัยอะไร

ที่น่าสนใจคือ เด็กในห้องสัมนาจากทั้งสองแลปมีประมาณสิบห้าคนรวมทุกระดับการศึกษา ได้รู้ว่าอาจารย์แต่ละคนทำอะไรบ้าง เด็กป.ตรีก็จะเกิดแรงบันดาลใจว่าถ้าเดินทางต่อสายนี้ก็มีเป้าหมายให้มองเห็นได้ว่าจะทำอะไร ไปทางไหน ส่วนเด็กป.โทป.เอก ก็จะได้ดูตัวอย่างเพื่อนๆว่ารุดหน้าไปขนาดไหน ตีพิมพ์ไปกี่เรื่อง แล้วแต่ละคนเป้าหมายเป็นอะไร จะได้ปรับให้ไปสู่เป้าหมายได้โดยดูจากเพื่อนๆ แล้วก็ยังได้ดูจากอาจารย์ท่านอื่นๆด้วย เห็นแล้วน่าปลื้มใจจริงๆ อาจารย์แต่ละท่านตีพิมพ์ไม่น้อยกว่าสามเรื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมกันทำงานกับคณะวิจัยของเค้า แล้วก็มีโปรเจกอยู่ต่างประเทศหมด ความร่วมมือก็กับต่างประเทศ ที่เห็นส่วนมากก็กับอเมริกา เพราะเค้ามีชื่อเสียงทางด้านอุตุนิยมวิทยา และภูมิอากาศวิทยา ผศ.ของแลปผม ตอนแรกผมก็พอรู้ว่าเค้ามีงานวิจัยอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะมีมากขนาดนี้ ถ้าเป็นบ้านเราคงเป็นศาตราจารย์ไปแล้ว ผมเห็นผศ.คนนี้ยังต้องไปเป็นคนจัดของในห้องแลปเลย ว่างๆก็ทำความสะอาดห้องแลป ผมก็เคยไปช่วยหลายครั้ง บางครั้งโปรเฟสเซอร์ผมก็มาช่วยด้วย ยก แบกลังหนังสือ อย่างศุกร์ที่แล้วนี่ เล่นผมซะปวดหลังเลย แต่ก็สนุกดีครับ นานๆจะได้ใช้แรงงานซะที มีอะไรที่เราทำได้ก็ช่วยๆกันไป อยู่ด้วยกันต้องรักกันครับ

อาจารย์ที่มาอยู่แลปแต่ละท่านนี่ มีแนวทางการทำวิจัยของตัวเองนะครับ ไม่มีใครครอบงำใครได้ แต่ละคนก็มีกลุ่มวิจัยของตัวเองเป็นอาจารย์อยู่แลปอื่น ไม่ก็มหาลัยอื่น หรือสถาบันวิจัย เห็นแล้วบ้านเราในอนาคตไม่รู้จะพัฒนาเป็นรูปแบบนี้ได้หรือไม่ แต่ติดตรงที่บ้านเราจะตัวใครตัวมัน เน้นระบบตะวันตกมากกว่า แต่ทางญี่ปุ่นเค้าจะเน้นลำดับอาวุโสและอายุงาน แต่ไม่ใช่ว่าแก่แต่ไม่มีความรู้นะครับ เพราะยิ่งแก่ยิ่งเคี่ยว ก็เล่นทำวิจัยกันสี่ห้าชิ้นต่อปี จะไม่เคี่ยวได้ยังไงครับ ใครไม่มีผลงาน ก็จะอายกันไปละครับ เห็นแล้วก็น่าเลื่อมใสและเคารพอย่างมาก สมกับเป็นอาจารย์มหาลัยมากๆ เรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่มีนะครับ พรีเซนต์เรื่องรับงานนอก หรือบริการวิชาการ เหมือนอาจารย์บ้านเรา ไม่มีนะครับจะมาอ้างว่าทำงานบริหาร ไม่มีใครเลยที่เอามาพรีเซนต์ งานวิจัยเน้นๆ ครับ บ้านเราถ้าแต่ละปีก็ควรจะมาแถลงผลงานอย่างนี้บ้างจะได้รู้ใครทำอะไร ไม่ทำอะไร สมกับเป็นอาจารย์หรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น