วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

เงินเดือนของอาจารย์มหาลัยในไทย


เงินเดือนของอาจารย์มหาลัยในไทย



เมื่อวานภรรยาผมเล่าให้ฟังว่าลูกพี่ลูกน้องของเค้าพึ่งจะสำเร็จการศึกษาเกี่ยวกับวิศวกรรมแหล่งน้ำในระดับปริญญาตรี ณ มหาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกทม. ตอนนี้ได้เข้าทำงาน ณ สำนักงานปะปาแห่งหนึ่งด้วยเงินเดือนเริ่มต้นที่ 2 หมื่นกว่า ผมก็พลอยดีใจไปกับความสำเร็จของญาติภรรยาไปด้วย ภูมิใจกับความมานะบากบั่นแทนพ่อแม่ของน้องเค้า แต่พอหันกลับมามองเงินเดือนอาจารย์ที่ผมได้รับในตอนแรกเดือนแรกเมื่อ 2 ปีก่อนนั้นได้ 1.5 หมื่นบาท กับวุฒิปริญญาตรีเกียรตินิยม และวุฒิปริญญาโทจากประเทศเยอรมันที่ได้รับมาด้วยการแข่งขันทุนจากรัฐบาลเยอรมัน ถามว่าผมรู้สึกอย่างไร ก็บอกตามตรงรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมและการให้ความสำคัญของคนไทยในอาชีพครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะอาชีพครูในระดับมหาลัยที่ต้องสอนเด็กเพื่อเป็นกำลังของชาติ อีกทั้งเด็กเหล่านี้บางคนจะกลายเป็นครูในแต่ละระดับไม่ว่าจะมัธยม ประถม แล้วส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปทำงานในสายงานไม่ว่าจะเอกชนหรือของรัฐ ซึ่งปัจจุบันล้วนแล้วได้รับค่าตอบแทนเท่าเงินเดือนอาจารย์ใหม่ในระดับปริญญาโท ซึ่งมันก็ควรจะเป็นรายได้ที่เด็กๆพวกนี้ควรจะได้รับ ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะผมเคยทำงานเอกชนมาก่อน5 ปีก่อนมาเป็นอาจารย์ เพราะอยากเป็น อยากปั้น อยากสร้าง อยากเห็น การเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่คนตัวเล็กๆจะทำได้ ถ้าหากอยากรวยหรือมีเงินเหลือใช้คงจะไปทำเอกชนแล้วหลังจากจบป.โทปี2009 ซึ่งมีหลายบริษัทหรือหน่วยงานข้ามชาติอ้าแขนรับและต้องการบุคลากรด้านนี้ แล้วผมก็มีอิสระในการเลือกด้วยเนื่องจากได้ทุนที่ไม่มีข้อผูกมัน แต่เป้าหมายก็ต้องเป็นเป้าหมาย ทุกคนต้องมีจุดยืนหรือส้นเท้าเป็นของตัวเองครับ^^ เพราะผมต้ังใจไว้ก่อนไปเยอรมันแล้วว่าถ้าจบกลับมาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะขอทำงานเป็นอาจารย์ แม้ว่าจะเริ่มตอนอายุเยอะแล้วก็ตาม และต้องทำใจว่าคนเราไม่มีทางจะได้อะไรเท่าเทียมกัน เพราะเกิดมาก็ไม่ได้เท่าเทียมกันอยู่แล้ว แต่พอตายไปฝากอะไรดีๆไว้กับโลกที่เราเคยอยู่บ้าง นั่นต่างหากคือสิ่งที่ผมคิด

ซึ่งในฐานะที่เป็นอาจารย์เมื่อเห็นลูกศิษย์ได้งานและมีเงินเดือนที่พอเลี้ยงตัวเองและส่งเสียครอบครัวได้ก็จะมีความภูมิใจระดับหนึ่ง แต่พูดถึงรายได้อาจารย์ควรจะต้องมีการทบทวนหันมาเพิ่มสวัสดิการ หรือ สร้างแรงจูงใจให้มากกว่านี้ ถึงจะได้คนที่เก่งหันมาเป็นอาจารย์ แต่ถ้าคนเก่งแต่เอาตัวเงินเป็นที่ตั้งโดยไม่ได้มีอุดมการณ์จะพัฒนาสังคมจริงๆ ก็อย่างมาเป็นอาจารย์เลยครับ ถ้าหากมาเป็นอาจารย์แล้วรับจ๊อบหรืองานนอก เพื่อหวังมีรายได้ แล้วอย่ามาบอกว่าเงินไม่พอ ทำไมไม่ทำตำแหน่งวิชาการ ขยันทำวิจัย หรือไม่งั้นก็เอาความรู้ที่มีอยู่และภาษาที่เชื่อว่าเป็นอาจารย์น่ะเก่งอยู่แล้วมาแปลตำรา ไม่มีอะไรทำก็แปลตำราซิครับ เหมือนอาจารย์ของผมท่านหนึ่งเป็นศาสตราจารย์แปลตำราเกือบยี่สิบเล่ม ใครจะอ่านไม่อ่านไม่สนใจขอให้แปลไว้ก่อน แต่ละเล่มผมอ่านดูก็คุณภาพนะครับเพราะท่านจบโทเอกที่อเมริกา อาจารย์และครูต้องเป็นแบบนี้

แต่ถึงอย่างไรคนไทยทุกคน รัฐบาล และมหาลัยต้องสนใจเรื่องสวัสดิการ ค่าจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทนให้กับอาจารย์มากกว่านี้ ถ้าพูดอย่างนี้อาจารย์ที่เป็นข้าราชการจะโต้แย้งและด่าผมแรงกลับมาว่าเค้าก็ได้เงินเดือนน้อย บางทีน้อยกว่าอาจารย์ใหม่ที่เป็นพนักงานมหาลัยอีก มันก็มีเหตุและผล นี่ก็อีกประเด็นครับ คงจะต้องถกเรื่องนี้ในบทความอื่นเพราะไม่ใช่จุดมุ่งหมายของบทความนี้ แต่ก็เข้าใจว่าการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของไทยขณะนี้เป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ผมก็เห็นใจอย่างมากและเข้าใจท่านครูบาอาจารย์ที่มีตำแหน่งข้าราชการ จู่ๆเด็กใหม่มาถึงเงินเดือนเริ่มต้นมันก็มากกว่าที่เค้ากำลังได้รับแล้ว จะมีสาเหตุมาจากอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้วก็ต้องเดินต่อ ไม่อยากให้มาเถียงกันแต่ต้องเอาใจใส่นะครับในรายละเอียดของสวัสดิการ นี่ก็คือปัญหาหนึ่งที่ผมเจอหลังจากอาจารย์ที่มีตำแหน่งข้าราชการเริ่มไม่มีการรับเข้าแล้วมีแต่อาจารย์ตำแหน่งพนักงานมหาลัย ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือไม่เก่งคุณเข้ามายุคนี้คุณก็จะเป็นอาจารย์ตำแหน่งพนักงานมหาลัย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะขัดขวางการไปถึงเป้าหมายของการเป็นครูที่ดีของผมครับ ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าทุกคนทีเป็นอาจารย์ก็มีเป้าหมายคล้ายคลึงกัน

แต่อย่างไรก็แล้วแต่อาจารย์ก็ต้องมีความสมถะ ให้สมกับภาพที่สังคมอยากจะให้เป็น^^’  ขยันหาความรู้ใหม่ๆ ติดตามกระแสความก้าวหน้าในวงการวิชาการของตัวเอง อัพเดตตลอด ขยันทำวิจัย แปลเรียบเรียงตำราวิชาการหรือแบบการสอน ความรู้อะไรจะได้มาฟรีๆหรือประหยัดทรัพยากรเงินตราก็รีบไขว่คว้า ขยันและใส่ใจในการสอน งานบริหารของภาควิชาก็ต้องช่วยเพราะถึงวันหนึ่งก็ต้องทำหน้าที่บริหารนั้นเมื่อถึงเวลาจะได้ทำได้ บริหารให้ภาควิชาเจริญขึ้น แล้วอาจารย์เด็กก็ต้องรู้จักบุญคุณของผู้มีบุญคุณ โดยจะต้องตอบแทนบุญคุณนั้นเพื่อสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมโดยไม่เบียดบังความเจริญก้าวหน้าที่วิชาการของตัวเอง เห็นไหมล่ะครับว่างานอาจารย์ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ใครใครก็เป็นได้ แต่จะเป็นอาจารย์ที่ดีได้จะมีสักกี่คนที่ไปถึงจุดนั้น ผมก็หวังว่าผมจะไปถึงจุดนั้น(จุดเป้าหมายของผมเองไม่เกี่ยวกับใครครับ)

 ลองอ่านกระทู้นี้จากพันทิพย์ ดุเด็ดเผ็ดมันส์ หลากหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับเงินเดือนอาจารย์ครับ แต่นี่แหละคือคน ไม่มีใครมองได้ครบทุกมุมครับ 
บทความนี้เขียนโดยอาจารย์มหาลัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น