เรื่องการใส่ชุดนักศึกษาในการเรียนระดับอุดมศึกษา 16.10.2013
ส่วนตัวนะสิ่งสำคัญของการเป็นชาติที่พัฒนาแล้วแบบผสมผสานรากเง้าแบบไทยๆเรา ไม่ได้อยู่ที่นักศึกษาจะแต่งกายเรียบร้อยในชุดนักศึกษา(ทำไมไม่ใส่โจงกระเบนหรือชุดไทยเดิมหรือผ้าขาวม้าหรือหม้อฮ่อมหรือชุดท้องถิ่นไปงั้นหรือ) หรืออาจารย์จะแต่งกายเรียบร้อยในชุดข้าราชการ แต่หากอยู่ที่ความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด รู้จริงและมีทักษะที่ทำได้จริง ไม่ละเลยหน้าที่ มีความเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ในตัวเอง(ไม่เกี่ยวว่าจะเรียนวิทย์หรือศิลป์หรือช่างหรือวิขาชีพอ่ะนะครับ) เน้นทดลองและปฎิบัติ(หลักกาลามสูตร) ไม่เชื่อใครง่ายจนกว่าจะรู้จริงด้วยตนเอง(โดยเฉพาะ social
media)มุ่งมั่น ขยัน อดทน ไม่ท้อถอย มีระเบียบต่อตัวเอง ตรงต่อเวลา มีคำสัตย์ ไม่คดโกง เคารพสิทธิส่วนรวม เคารพสิทธิส่วนตัว สงวนจุดต่าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อ่อนน้อมถ่อมตน(นี่แบบไทยและญี่ปุ่น เช่น ครับ ค่ะ) คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวม สร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีๆและไม่มีในสังคม พัฒนาสิ่งเก่าที่มีให้ดียิ่งขึ้น หากทุกคนทุกระดับทำได้ สังคมก็จะเกิดการเลียนแบบ เหมือนเยอรมันและญี่ปุ่น(ก็เค้าเจริญแล้วนี่ อย่าเป็นองุ่นเปรี้ยมะนาวหวานนะท่าน)
มีนักศึกษาจากมหาลัยดังกลุ่มหนึ่งในตอนกลางปี56นี้ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการแต่งกายนักศึกษา แล้วก็มีฝ่ายตรงข้ามออกมาให้ความคิดเห็นและเหตุผลสนับสนุนถึงการใส่ และเมื่อเดือนกันยายนนี้ก็มีกลุ่มนักศึกษากลุ่มเดิม ออกมาแย้งต่ออีกว่าถ้าจะให้ใส่ชุด อาจารย์ก็ต้องแต่งกายชุดข้าราชการครูทุกวัน (เอ่อข้อนี้อาจจะไม่ได้สำหรับอาจารย์ทุกคน เพราะปัจจุบันอาจารย์หลายท่านไม่ได้เป็นข้าราชการแล้ว) โดยนักศึกษากลุ่มนี้ก็ให้เหตุผลเชิงประชดประชันเหมือนที่อีกฝ่ายบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดว่า หากอาจารย์ใส่ชุดข้าราชการแล้วจะไม่เสียเวลาการแต่งตัว การเลือกซื้อเสื้อผ้า ประหยัด เท่าเทียม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน เป็นต้น เป็นไงล่ะโดยตอกกลับเลย ใจเขาใจเราอ่ะนะ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันนะ อย่าถือว่าพวกเขาอายุน้อยกว่า คนอายุมากกว่าจะให้ทำอะไรก็ได้นะ อาจารย์อเมริกันบอกเลยว่าจะไม่ถามเรื่องอายุเพราะเป็นการ discriminate นั่นก็คือเป็นการเหยียดหรือแบ่งแยกชนชั้นว่างั้นเลยนะ แต่คนไทยจะถามเพราะจะได้เรียกพี่น้องให้เกียรติตามวัฒนธรรมถูก แต่ก็แฝงไปด้วยความต้องการจะเอาอายุมาเป็นสิ่งที่บอกว่าเหนือกว่า(คิดเองนะ)
อันที่จริงผมเห็นด้วยกับกลุ่มที่ออกมาแสดงความคิดเห็นที่เคารพสิทธิ์และไม่เดือดร้อนใครเช่นนี้ ผมชอบเสรีภาพในการแสดงออก ไม่ต้องแคร์ใคร แต่ที่ไม่ชอบมากๆคือไปถ่ายรูปกับท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ที่ผมและหลายท่านเคารพ ขอเรื่องกาละเทศะไว้สักเรื่องได้มั้ยไอ้น้องเอ้ยยยย จุดยืนของผม(เน้นของผม)นั้นก็คือเรื่องการแต่งกายของใคร ก็ของมัน ใครอยากแต่งชุดนักศึกษาหรือชุดข้าราชการ ก็ตามใจ เพราะทุกท่านโตแล้ว และมีเหตุผลของตัวเอง ใครฐานะไม่ค่อยดีหากเห็นว่าใส่ชุดนักศึกษาแล้วจะช่วยประหยัดก็จะใส่ก็ไม่ว่ากัน ใครอยากสวย ใครอยากแสดงออกก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ควรที่จะให้เกียรติสถานที่และความเป็นไทยบ้างคือ ไม่แต่งตัวล่อแหลม เปิดนู้นนี่นั่น "แต่ขอให้จำไว้ว่าหากคุณได้เสรีภาพนี้ไปแล้วคุณไม่รับผิดชอบสิ่งที่คุณทำอยู่นั่นคือการเรียน คุณก็จะได้รับผลกรรมจากเสรีภาพที่มหาลัยมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในการพิจารณาผลการเรียนของคุณไอ้น้องเอ้ยยย" ผมเชื่อนะว่าอิสระทางความคิดสำคัญ และก็ยังเชื่อในเสรีภาพของการแสดงออกไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม หากใครไม่ทำ เราก็ไม่ควรไปบังคับเค้าให้ทำ อะไรที่มันล้าสมัย โบราณ(อ้างว่านี่คือวัฒนธรรมไทยเพื่อจะได้ง่ายในการตอบ แต่ไม่อธิบายเหตุผลแฝงที่มีอยู่) แล้วเอาเหตุผลเก่าๆมาอ้าง นี่ยังต้องมีอีกหลายเรื่องที่อีกหน่อยจะมีประเด็นแรงขึ้นมาอย่งแน่นอนจากกลุ่มต่างๆที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เช่น การเคารพธงชาติเช้าและเย็น ทีวีในต่างประเทศที่พัฒนาแล้วนำเสนอแบบงงๆเลยว่า ไม่นึกว่าประเทศไทยจะยังมีสิ่งนี้อยู่ แล้วเค้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งนี้มีเหตุมาจากอะไร ผมก็ไม่รู้จะตอบว่าไงก็ยังตอบได้แค่ว่า เป็นวิถีแบบไทยๆเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น