Schloss Neuschwanstein หรือปราสาทดิสนีย์แลนด์ ทางใต้ของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมันถ่ายเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2008
มันเป็นคำถามที่ผมถูกถามมาหลายครั้ง หลายคน โปรเฟสเซอร์ผมก็เคยถาม ผมตอบท่านไปว่า ผมอยากเรียนรู้สิ่งที่ไม่มีในเมืองไทย เพื่อนป.เอกก็ถามผม ผมตอบไปว่า เมืองไทยไม่มีโปรเฟสเซอร์เก่งๆทางด้านภูมิอากาศและภูมิศาสตร์ เรื่องจริงครับ เพราะภูมิศาสตร์ที่เมืองไทย ใครก็คิดว่ามันต้องท่องๆ จำๆ เหมือนตอนเราเรียนมัธยมแน่ๆเลยที่อยู่สังคมศึกษา มันต้องไม่เป็นวิทยาศาสตร์แน่ๆ แล้วเด็กที่เลือกเรียนภูมิศาสตร์ที่เมืองไทยก็เลือกเป็นอันดับสุดท้ายห้อยไว้แม้แต่ผมเอง แต่พอมาถึงวันนี้ ผมแน่ใจครับว่าภูมิศาสาตร์คือ วิทยาศาสตร์แน่นอน ไม่เชื่อถาม Alexander von humboldt หรือ Jun Matsumoto แล้ววุฒิการศึกษาที่ผมได้ตอนป.ตรี ก็ วทบ. ซึ่งมันเพิ่มโอกาศให้ผมได้ไปเรียนโทที่เยอรมัน และเอกที่ญี่ปุ่น นี่คือสิ่งยืนยัน หากใครอยากรู้ว่าภูมิศาสตร์สำคัญขนาดไหนลองหาภาควิชาภูมิศาสตร์ในมหาลัยดังๆของอเมริกา หรือ อังกฤษและยุโรป ที่มีทั้ง วิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ ดูสิว่าต่างประเทศให้ความสำคัญขนาดไหน บ้านเรายังต้องขับเคลื่อนให้เกิดการยอมรับอีกเยอะ ด้วยผลงานวิจัยเชิงประจักษ์กับการเรียนการสอนที่ปรับปรุงคุณภาพให้มากยิ่งขึ้น โอ้ๆๆๆ ไปไกลแล้วอ่ะ
ส่วนคำตอบจริงๆว่าทำไมผมถึงอยากมาเรียนต่างประเทศ ฝันสูงเกินไปสำหรับเด็กบ้านนอกไปไหม? ผมว่าคงเกิดจากตอนประถม ผมเห็นเพื่อนที่ชื่อ ต่าย (ชัยวัฒน์ แก้วมณี) เขียนโปสการ์ดและจดหมายไปขอเอกสารเกี่ยวกับประเทศแถบยุโรปจากสถานทูตของประเทศนั้นๆ แล้วเพื่อนผมก็เอามาให้อ่าน ผมก็ลองเขียนไปขอมั่ง ก็ได้กลับมาจริงๆ มีหลายประเทศเลยที่ผมได้ ดีใจมากความรู้สึกตอนนั้น ไม่นึกเลยว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตเหล่านั้นจะใจดีมากๆ กับเด็กบ้านนอกห่างไกลความเจริญอย่างพวกเรา มีทั้งเยอรมัน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและอีกหลายประเทศในแถบยุโรปที่่ส่งมาให้
เห็นไหมครับสิ่งดีที่ท่านทั้งหลายทำมาวันนี้มันเห็นผล อย่างน้อยมันทำให้เด็กบ้านนอกได้เห็นความศิวิไลผ่านรูปถ่ายสวยงาม เอกสารมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ผมชอบดูรูปบ้านเมืองเหล่านั้น มันคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผมไปเรียนต่างประเทศได้อย่างหนึ่ง ผมก็เลยทำการขอทุนฟรีจากประเทศผู้แสนใจดีซะเลย ขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตผู้แสนใจดีเหล่านั้นนะครับ